สวัสดีค่าาา ในรีวิวนี้ ขอนำเสนอทางเลือกเป๊ะๆ สำหรับสงกรานต์นี้ที่เกาะหลีเป๊ะค่า
การเดินทางครั้งนี้ ใช้งบประมาณคนละ 12,000
แบ่งเป็น แพ็คเกจท่องเที่ยวของเมาเท่นรีสอร์ท 3 วัน 2 คืนคนละ 6800
นอนเพิ่มอีก 1 คืน 2700/2 คน เท่ากับคนละ 1350
ตั๋วเครื่องบินแอร์เอเชีย ประมาณคนละ 3000
พ็อคเก็ตมันนี่อันน้อยนิด ประมาณคนละ 1000
เช่นเคยค่ะ เราซื้อแพ็คเกจของเมาเท่นรีสอร์ท (mountain resort) ห้อง VIP (ถูดสุดแล้ว) ในงาน ไทยเที่ยวไทยคุยกับคนอื่นๆ ตอนอยู่ที่รีสอร์ท เห็นพี่เค้าบอกว่า เค้าซื้อแยก เป็นห้องพักแบบเดียวกัน
ราคาคืนละ 3000 เราจองในงาน 2700 ลดลงอีกค่ะ
แต่ขอบอก ว่าถ้าพัก 3 วัน 2 คืน ซื้อเป็นแพ็คเกจ คุ้มกว่ามากๆ คุ้มกว่ายังไงเดี๋ยวตามไปดูค่ะ
รายการของแพ็คเกจ 3 วัน 2 คืน มีทัวร์และอาหารให้ด้วย (ยกเว้นวันที่ซื้อนอนเพิ่ม จะมีแต่อาหารเช้า)
รายละเอียดตามลิงค์นี้ค่า
เกาะหลีเป๊ะ จัดเป็นเกาะที่อยู่ห่างไกลถึงจังหวัดสตูล อีกนิดเดียวก็ไปมาเลเซียแล้วค่ะ
แต่ว่าถือเป็นเกาะที่มีความเจริญมากๆ เทียบกับความไกล มีถนนคนเดินตอนกลางคืนด้วยนะ
เราเลือกพักที่ เมาเท่นรีสอร์ท ซึ่งอยู่บนหาดเล็กๆ ชื่อว่าซันเซท ที่สามารถนั่งมองพระอาทิตย์ตกดิน
หนึ่งในสามหาดของเกาะหลีเป๊ะ
อีกสองหาดคือ หาดซันไรซ์ ถิ่นหมู่บ้านชาวมอแกนที่มองเห็นพระอาทิตย์ขึ้น
และหาดพัทยา (เรียกกันเพี้ยนมาจากหาดบันดาหยา) ซึ่งมีลักษณะครึกครื้น
อารมณ์ประมาณพัทยา เสม็ด ค่ะ
เปิดเพลงคลอๆ
หลีกหนีเมือง ไปหลีเป๊ะ กันเลยค่าาา
เราขึ้นเครื่องแอร์เอเชีย ที่ดอนเมือง รอบเช้าสุดๆ เครื่องออกประมาณ 6.00
ตื่นกันตั้งแต่ไก่ยังไม่ตื่น
แล้วถึงหาดใหญ่ จ.สงขลา เวลาประมาณ 7.00
เจอกับพี่รถตู้ของ เมาเท่น รีสอร์ทแล้ว
มุ่งหน้าต่อไปยังท่าเรือปากบารา จังหวัดสตูล
ถึงแว้ววว
พอถึงท่าเรือ เราจะมีไกด์ส่วนตัว คอยดูแลเราตลอดทริปด้วยความอบอุ่น
เช่น คอยดูแลตอนกินข้าว เดินเป็นเพื่อนตอนเดินตลาดไนท์
คอยฉุดกระชากลากถูตอนดำน้ำ เดินพาส่งถึงหน้าห้องนอน
รับรองมาเป็นแพ็คเกจแบบนี้ไม่มีเหงาแน่นอนค่ะ
น้ำบริเวณท่าเรือ ดูใสนะเนี่ย
บรรยากาศบริเวณท่าเรือปากบาราค่า
มีที่ทำการอุทยานแห่งชาติตะรุเตาอยู่ที่ท่าเรือด้วย เดี๋ยวเราจะออกเรือผ่านเกาะนี้ ก่อนไปถึงหลีเป๊ะแหละ
วิวสุดๆ
แค่เห็นก็อยากไปแว้ววว
นี่คือเรือสปีดโบ้ทที่เราจะไปกัน มันใหญ่มาก จุคนได้หลายสิบเลยค่ะ
ไม่ต้องกลัวนะว่าเรือจะกระเด้งๆ เหมือนสปีดโบ้ทลำเล็ก
พี่ๆ จอดป้ายด้วย เกาะตะรุเตาค่าาา กรี๊ดดด
โอว พระเจ้า มันสวยอ่ะ
สุดแสนจะโรแมนติค
อ้าว เดินแค่แป๊บเดียวโดนเรียกขึ้นเรือแล้ววว
แวะที่เกาะไข่ เดินลอดซุ้มหินธรรมชาติด้วย

และก็ลงเรืออีก มาถึงแว้ววว
เวลคัมดริ๊งค์ กับวิวห้องอาหารของเมาเท่นรีสอร์ท ที่เห็นแล้ว
"นี่ เราตายแล้วเหรอเนี่ย"
เหมือนสวรรค์เลยยย
มาถึงประมาณบ่าย 2 กับอาหารกลางวันที่อลังการงานสร้าง
มากันไม่กี่คน กินกันเหลือทุกมื้อเลยค่ะ เสียดายจัง (แอบหยิบให้หมาชาวเกาะกินด้วย)
กินข้าวกัน นั่งพักสูบวิวสวรรค์แล้ว พี่ๆ สต๊าฟก็พากระเป๋าของเรามาจอดที่ห้องค่า
ห้องน้ำแบบโอเพ่น แต่คนข้างนอกมองเข้ามาจะไม่เห็นค่ะ
ห้อง VIP 4 นี้อยู่สูงจากพื้นราบมากทีเดียวค่ะ


ตู้เสื้อผ้าแพลมๆ
ซื้อขนมมาตุนด้วย ของบนเกาะแพงใช้ได้ทีเดียวค่ะ

นอนสลบเหมือด เคลิ้มกับวิวสวน
คนเดินผ่านไปผ่านมาก็เห็นกันหมดเลยแหละ เพราะว่าห้องมีกระจกเยอะ และโล่งมากค่ะ
ตอนเย็นๆ ปลุกขึ้นมาเคลิ้มต่อกับวิวซันเซท บนหาดซันเซท หน้าที่พักค่ะ
หมาที่หลีเป๊ะนี่ ช่างกระแซะจริงๆ ค่ะ
สวีทวีดวิ้ววว ปิ้วๆ เป่าปาก
ชิลแ่ค่ไหน... ถ้าได้เบียร์สักขวดล่ะเอ้อ... โอววว อยากนอนแล้วอ่ะ
เกาะส่วนตัวของคุณเธอ
หลังจากพระอาทิตย์ลาลับขอบฟ้าแล้ว
ก็ได้เวลาของตลาดไนท์ค่ะ
โรตีสารพัดชาติ

เมาเท่นรีสอร์ท จะมีรถรับส่งจากรีสอร์ท มาที่ตลาดไนท์ตรงหาดพัทยาค่ะ
วิวตรงหาดพัทยาค่ะ
วันแรก สมบุกสมบันกับการเดินทางมาทั้งวัน นอนก่อนนะค้า
คร่อกกก
เช้าแล้วๆ
เร็วเนอะ
หิ้วชูชีพกับสน็อคเกิ้ล ที่หยิบยืมจากเคาน์เตอร์รีสอร์ท (ฟรี)
เี่ี่ราสามารถเอาเก็บไว้ที่ห้อง เผื่อดำน้ำเล่นบนหน้าหาดก็ได้
ตลอดช่วงเวลาแพ็คเกจค่ะ
ตีนเป็ดที่เอาไว้ใส่ดำน้ำก็ยืมได้นะ
แ่ต่ระวังยืนลำบาก
เพราะเป็นตีนเป็ดนี่นา
(แต่หากพ้นเวลาของแพ็คเกจไปแล้ว ค่าเช่าอุปกรณ์ดำน้ำ 50 บาทต่อชิ้นนะจ๊ะ)
กระโดดลงเรือมาที่
เกาะหินซ้อน
ตรงเกาะหินซ้อนนี้ เราดำน้ำกันแป๊บนึง
ใต้น้ำช่างสวยงาม
เสร็จแล้วพี่ไกด์ส่วนตัว
โอววว รู้สึกเหมือนเป็นพระราชา
ก็จอดเรือให้เรากินข้าวกลางวัน
ที่เกาะสวาท หาดสวรรค์
เห็นอะไรมั้ย
ปูเสฉวนนน!!!
อยากจะบอกว่า มีเยอะเหมือนน้องหมาจรจัดในกรุงเทพฯ เลย
เดินเหยียบไปกี่ตัวแล้วไม่รู้ตัว
ข้าวกล่องที่ใส่คัพเปอร์แวร์ แกงถูกแยกรัดใส่ถุงอย่างดี
เห็นแล้วซึ้งน้ำตาจะไหล...
เกิดมา ไม่เค้ยไม่เคย ได้มีชุดปิคนิคเป็นของตัวเอง
กินเสร็จ พี่ไกด์ แสดงความเป็นกุลสตรีเหนือแอดมิน
ด้วยการปอกสัปปะรดแบบสับหว่าง
พี่ เอาสัปปะรดไปซุกอยู่ตรงส่วนไหนของเรือเนี่ยคะ
อุตส่า์ห์เอามาให้กิน ดีใจอ่าาา
ทรายที่ทะเลอันดามัน ของจังหวัดสตูลนี่
นุ่มมากนะคะ
เสียดายไม่ได้ชิม
สังเกตรอยเท้า
บุ๋มสุดๆ
เดินแทบทรงตัวไม่อยู่กันเลยทีเดียว
เว่อร์และ
รักนะจุ๊บๆ
อยากติดเกาะ
ที่เกาะ
เอิ่ม เกาะอะไร
เกาะข้าวกลางวันนี้
มีเพื่อนมากินข้าวกับเราด้วยค่ะ
เห็นมั้ยคะ
กินและกลิ้งกันจนได้ที่แล้ว
ลุยต่อกันเลยยย
สถานีต่อไป ปิ๊ปๆ เกาะราวี

ปิ๊ปๆ สถานีต่อไป... ไปไหนไม่รู้
ลงตรงนี้แล้วกัน
พบกับรีเซพชั่นประจำเกาะสองท่าน
แอบถ่ายสาวใส่บิกินี่
พยายามจ้องและซูม ดูเหมือนจะถูกหลอก
เสื้อยืด รูปบิกินี่!!!
ดอกไม้โรยริมฝั่ง
ไม่หอมนะ ดมแล้ว
อยากเกิดเป็นหมาบนเกาะราวี
หมาโดยมากชอบทำโยคะท่านี้
แฮ่
มองไม่เห็น
ผมโพดมีความสุขเลยฮับ
ขอมือ ฮึบๆ
ออกจากเกาะ ยัง ยังไม่หมด
เรายังมุ่งหน้าหาความหมายของชีวิตกันต่อไป
เบื้องหลังของพี่ไกด์ยังหล่อขนาดนี้
แล้วเบื้องหน้าจะหล่อขนาดไหน
แต่เนื่องจากจรรยาบรรณ เราไม่สามารถเปิดเผยใบหน้าได้
บ่ายลอยตะวันคล้อยต่ำ
ร่ำๆ มาถึงเกาะหินงาม
พี่ไกด์บอกว่า หินจะงามได้ต้องเอาน้ำซัดก่อน

ไม่งั้นจะแห้งๆ แบบนี้
เมื่อมาถึงเกาะหินงามแล้ว
สิ่งที่ต้องทำคือการเรียงหิน
ให้ได้ 12 ก้อน สูงขึ้นไป
แล้วอธิษฐานขอพรได้หนึ่งอย่าง
เสร็จแล้วอย่าลืมเอาหินลงด้วย
ตัวอย่างการเรียงหินของพี่ำไกด์
แต่เราก็สงสัย ถ้าเอาหินลง ทำไมยังมีกองหินตระหง่านตั้งอยู่เต็มไปหมด
พี่ไกด์บอกว่า อ๋อ ก็คนนั้นเขาไม่มีไกด์บอกยังไงล่ะ
หมายเหตุ พอกลับถึงที่พัก
เพื่อนกลุ่มที่ไปพร้อมๆ กันก็เล่าว่า
ไกด์ของเขาไม่เห็นบอกให้เอาหินลงเลย
สงสัยคนละสำนัก...
กลับมาแล้วจ้าาา
กินอาหารค่ำกันนะคะ
ตบท้ายด้วยผลไ้ม้ ทุกมื้อเลยยย
โอววว รู้สึกเหมือนซื้อแพ็คเกจมาราคา 5 หมื่น
อลังการดาวล้านดวง
ตลาดโต้รุ่ง อีก
วันที่สาม ตื่นแล้ววว
โอ้ว
มองกี่ทีๆ ก็ยังไม่ชินตากับวิวแบบนี้
จะสวยไปไหน
ในวันนี้เราซื้อที่พักแยก แต่มีอาหารเช้าแบบบุฟเฟ่ต์ให้ด้วยน้า
พักผ่อนๆ
ในช่วงกลางวัน
แอดมินได้เอาขนมไปให้น้องหมาที่ชายหาดซันเซทกิน
จู่ๆ มีเสียงซาวด์แทร็ค ทักขึ้นว่า
"Excuse me, is that chocolate?"
พอกระทบโสตประสาท
รู้ว่าไม่ใช่ภาษาไทยแน่แล้ว
ตั้งสติ สวดพระคาถาชินะบัญชร แล้วหันไป
เจอฝรั่งหนุ่ม โอววว
หล่อเหมือนเทวดาค่ะ
ได้ความว่า
ฝรั่งเตือนว่า อย่าเอาช็อคโกแล็ตให้น้องหมากิน มันเป็นพิษกับน้องหมา
แต่ยังยิ้มหวานทิ้งท้าย เหมือนตบหัวแล้วลูบหลัง "แต่ผมชอบที่คุณใส่ใจหมานะ"
กรี๊ดดด
ตกหลุมรักครั้งแรก ตอนที่อายุไม่อำนวยแล้ว
มองไปมองมา ดูเหมือนเขาจะเด็กและผอมกว่าแอดมินเสียอีก
แหม แอดมินก็รู้นะคะว่าน้องหมากินขนมทำจากช็อคโกแล็ตไม่ได้
แต่รีบให้ไปหน่อยเท่านั้นเองงง แฮ่ T- T
บนเกาะหลีเป๊ะนี่ ฝรั่งเยอะมากเลยค่ะ
แนะนำคนที่อยากฝึกภาษาอังกฤษ
ถ้าคุณมาทีี่นี่แล้ว คงได้ฝึกซักประโยคสองประโยค
เหมือนที่แอดมินโดนฝรั่งตามมาด่าถึงในประเทศเลย
แถมวิดีโอท้ายๆ รีวิวนี้ก็ได้มาจากคุณลุงชาวเยอรมันผู้ใจดีด้วยนะคะ
เย็นวันสุดท้ายบนเกาะหลีเป๊ะ
ที่ชายหาดซันเซท
คุณกำลังจะได้เห็น สิ่งที่เห็นได้แต่ในการ์ตูน

อยากดูนีโม ทำยังไง
เดินลงน้ำไป
พอน้ำลึกเท่าเอว
ก้มหน้าลง
(ขอบคุณเครดิตภาพและวิดีโอ จากคุณ Sakuna Kotchanin ค่ะ เพื่อนร่วมทริปผู้น่ารักค่ะ)
ปลาสิงโต ที่ดำน้ำสน็อคเกิ้ล ทั่วอาณาเขตจังหวัดสตูล แล้วไม่เจอ
เจอ หน้า รี สอร์ท
(เครติดคุณลุง ขายาว ชาวเยอรมัน ผู้ใจดี แบ่งปันวิดีโอให้เราได้ชื่นชมค่ะ)
ดูปลาหน้ารีสอร์ทกันจนหนำใจแล้ว
มุ่งสู่ตลาดไนท์ ไปหาอะไรลงท้องค่ะ
โรตีเจ้าดัง
ด้านซ้ายคือโรตีทูน่าชีส (มีแครอทด้วยอ่า ฮือ ไม่ชอบกินแครอท)
ด้านขวาคือช็อคโกแล็ตค่ะ
แอบคิดว่า เจ้าไม่ดังเท่า ที่เคยกินมา ก็อร่อยนะ เหอๆๆ
ขอต้อนรับสู่วันสุดท้ายของการเดินทางค่ะ
วันสุดท้ายนี่เราตื่นเช้ากันเป็นพิเศษ
เลยได้เจอ... ไม่รู้ว่าเธอจะเป็นดั่งหมอกหรือควัน
วิวเทพ จากระเบียงห้องอาหารค่ะ
อยากเกิดเป็นหมาบนเกาะหลีเป๊ะ
อาหารเช้ามื้อสุดท้ายบนห้องอาหารเมาเท่นรีสอร์ท
กินไปหลั่งน้ำตาไป
กลับบ้านแบบ ไม่อาววว ไ่ม่กลับ
ไม่กลับได้มั้ย
เค้าไม่อยากกลับบ้านนน
มาม่าบนเครื่องแอร์เอเชียค่ะ ถ้วยละ... 60 บาทได้ค่ะ
แต่คุณกินแล้วคุณจะรู้เลย
คุณบินได้
ขอบคุณที่ใช้บริการ เที่ยวเสาร์อาทิตย์
หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้ให้บริการท่านอีกในครั้งหน้า
สวัสดีค่ะ (อยากลองพูดแบบแอร์โฮสเตส มานานแว้ววว :D)
No comments:
Post a Comment